animate animate animate animate animate animate animate animate animate animate animate animate animate animate animate animate animate animate animate animate animate

สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรปราการ


สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรปราการ


          เพื่อน ๆ ที่ไม่ค่อยมีเวลาเดินทางไปท่องเที่ยวหลายวัน จะต้องมีความกังวลใจเรื่องการวางแผนไปท่องเที่ยวในแต่ละครั้งแน่นอน เพราะด้วยวันและเวลาที่จำกัด แถมตัวเลือกสถานที่ท่องเทียวก็มีไม่มาก วันนี้กระปุกท่องเที่ยวเลยมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายใน "จังหวัดสมุทรปราการ" จังหวัดที่ตั้งอยู่ใกล้กรุงเทพฯ เต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติ และวิถีชีวิตที่เงียบสงบ ส่วนจะมีไหนบ้างนั้น ตามเราไปเที่ยวกันเลยจ้า

 
 1. ฟาร์มจระเข้ และสวนสัตว์สมุทรปราการ

ท่องเที่ยวสมุทรปราการ
ภาพจาก shutterstock/Tatiana Morozova

          ฟาร์มจระเข้ และสวนสัตว์สมุทรปราการ ตั้งอยู่บริเวณถนนท้ายบ้าน ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ปัจจุบันถือเป็นฟาร์มที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2493 ภายในมีการจัดเพาะเลี้ยงจระเข้ในขนาดต่าง ๆ กว่า 6 หมื่นตัว โดยจะมีการแสดงโชว์ทุกวัน ตั้งแต่โชว์จระเข้, การแสดงวิธีจับจระเข้ด้วยมือเปล่า ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. โดยรอบการแสดงจะมีทุก ๆ 1 ชั่วโมง ส่วนวันหยุดจะมีการเพิ่มรอบระหว่าง 12.00 น. ถึง 17.00 น. พร้อมด้วยการเพาะเลี้ยงจระเข้เป็นหลักแล้ว ยังมีสัตว์อื่น ๆ อีกหลายชนิดได้แก่ เสือ, ลิงชิมแปนซี, ชะนี, เต่า, งู, อูฐ, ฮิปโปโปเตมัส, กวาง และปลาจำนวนมาก อีกทั้งยังมีการจำลองการจัดแสดงกระดูกและหุ่นจำลองไดโนเสาร์ พร้อมการฉายวีดิทัศน์ เกี่ยวกับมนุษย์และสัตว์ดึกดำบรรพ เป็นต้น 

           ทั้งนี้ เปิดบริการทุกวันเวลา 07.00-18.00 น. โดยอัตราค่าบัตรผ่านประตู ผู้ใหญ่คนละ 60 บาท, เด็ก 30 บาท ส่วนชาวต่างประเทศผู้ใหญ่ คนละ 300 บาท และเด็ก 200 บาท สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 2703 4891-5, 0 2703 5144-8 หรือเว็บไซต์ worldcrocodile.com
  

 2. เมืองโบราณ 
ท่องเที่ยวสมุทรปราการ

           เมืองโบราณ ตั้งอยู่ถนนสุขุมวิท ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นที่เที่ยวที่รวบรวมสถานที่สำคัญ ๆ ในประเทศ มีพื้นที่ประมาณ 600 ไร่ เริ่มก่อสร้างเมื่อปลายปี พ.ศ. 2506 โดย คุณประไพ วิริยะพันธุ์ ที่นี่ได้รวมปูชนียสถานที่สำคัญกว่า 116 แห่ง เช่น เขาพระวิหาร, ปราสาทหินพนมรุ้ง,วัดมหาธาตุ สุโขทัย, พระพุทธบาทสระบุรี, พระธาตุเมืองนคร และพระธาตุไชยา เป็นต้น โดยสร้างให้มีขนาดเล็กลง ซึ่งบางแห่งเท่าแบบจริงด้วยฝีมือการสร้างอย่างฝีมือประณีต นอกจากนั้น ยังเป็นแหล่งรวบรวมศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านที่นับวันจะสูญหายไปจากสังคมยุคใหม่ สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาค้นคว้าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศไทย พร้อมทั้งการศึกษาได้จากเมืองโบราณแห่งนี้อีกด้วย

            สำหรับอัตราค่าเข้าชม สำหรับบุคคลทั่วไปราคา ชาวไทย ราคา  350 บาท (รวมค่าบริการรถราง, จักรยาน และนั่งเรือ) ส่วนเด็กราคา ราคา 175 บาท (รวมค่าบริการรถราง, จักรยาน และนั่งเรือ), สำหรับผู้สูงอายุ ที่มีอายุเกิน 60 ปี ขึ้นไป ราคา 250 บาท และสำหรับชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ ราคา 500 บาท ส่วนเด็กราคา 250 บาท  แต่ถ้าใครที่นำรถยนต์ส่วนตัวหรือนำรถตู้เข้าภายในต้องเสียค่าบริการ 300 บาท ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2709 1644-8 หรือเว็บไซต์ ancientcity.com, เฟซบุ๊ก เมืองโบราณ - พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งทางศิลปวัฒนธรรมระดับโลกแห่งสยาม 
 

   3. พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ

ท่องเที่ยวสมุทรปราการ

            พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ ตั้งอยู่ถนนสุขุมวิท ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์และอุปกรณ์ทุกประเภทที่ใช้ในกิจการกองทัพเรือ รวมถึงเรือรบจำลองของไทยตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งเรือดำน้ำรุ่นแรกและรุ่นเดียวของราชนาวีไทยอีกด้วย โดยพิพิธภัณฑ์ทหารเรือเป็นพิพิธภัณฑสถานแบบพิเศษ ทำหน้าที่รวบรวม อนุรักษ์ วัตถุพิพิธภัณฑ์อันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ โบราณสถาน และโบราณคดีที่เกี่ยวกับกิจการทหารเรือ ภายในพิพิธภัณฑ์เป็นที่รวบรวมข้อมูลทางประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับวัตถุพิพิธภัณฑ์สมัยโบราณของกองทัพเรือไทย ยุทธนาวีการรบครั้งสำคัญ ๆ ตลอดจนอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ที่เคยใช้ในการรบเป็นจำนวนมาก

            นอกจากนี้ ยังมีเรือจำลองสมัยต่าง ๆ เช่น เรือที่ใช้ในพระราชพิธีกระบวนเรือพยุหยาตราชลมารคในสมัยรัชกาลที่ 5 เรือหลวงพระร่วง เรือเหรา และเรือหลวงมัจฉานุซึ่งเป็นเรือดำน้ำรุ่นแรกของกองทัพเรือไทย ซึ่งจัดแสดงบางส่วนถูกเก็บรักษาไว้ ที่พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ โดยภายในแบ่งการเข้าชมสถานที่ออกเป็น 2 แบบคือ เข้าชมเป็นรายบุคคล และหมู่คณะ ซึ่งต้องทำแบบฟอร์มขอเข้าชมตามวันและเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 2475 3808 , 0 2394 1997 หรือเฟซบุ๊ก พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ สมุทรปราการ
 4. พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ 
ท่องเที่ยวสมุทรปราการ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Erawan Museum

            พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 12 ไร่ บริเวณถนนสุขุมวิท ตำบลบางเมืองใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างเพื่อให้เป็นสถานที่เก็บรักษาศิลปวัตถุ มรดกทางวัฒนธรรมด้านต่าง ๆ และเพื่อสืบสานอนุรักษ์งานศิลป์ไทยให้คงอยู่สืบชั่วลูกชั่วหลานสืบไป โดยลักษณะภายนอกของพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณหรือช้างสามเศียร เป็นประติมากรรมลอยตัวด้วยวิธีเคาะมือแห่งแรกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำจากโลหะทองแดงแผ่นเล็กสุดขนาดเท่าฝ่ามือ นำมาเรียงต่อกันด้วยความประณีตนับแสนชิ้น ตัวช้างรวมอาคารมีความสูง 43.60 เมตร (หรือสูงขนาดตึก 14-17 ชั้น โดยประมาณ)

            สำหรับอาคารพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ ส่วนบนของตัวช้างเฉพาะส่วนหัวมีน้ำหนักประมาณ 100 ตัน ลำตัวช้างหนัก 150 ตันสูง 29 เมตร กว้าง 12 เมตร และยาว 39 เมตร ตัวช้างออกแบบให้เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงวัตถุมีค่า เช่น ภาพวาดสีฝุ่น, รูปจักรวาล, พระพุทธรูปปางลีลา บริเวณท้องช้างปูด้วยไม้มะเกลือสีออกดำ 

            ส่วนล่างของตัวช้างเป็นฐาน โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก อาคารศาลามีความสูง 14.60 เมตร กระจายน้ำหนักตัวช้างด้วยคานวงแหวนรอบนอกและรอบในบนอาคาร ถ่ายน้ำหนักลงเสาแปดเสาภายนอกและสี่เสา ภายในอาคารศาลาการตกแต่งภายในเป็นการผสมผสานศิลปะหลากหลายรูปแบบ เช่น การใช้ กระจกสีแบบศิลปะตะวันตก, เครื่องเบญจรงค์ สลับลวดลายสอดสี, การดุนโลหะบนแผ่นดีบุกของช่างเมืองนครศรีธรรมราชและรูปปั้นโบราณชนิดต่าง ๆ อาทิ คนธรรพ์บรรเลงดนตรี รูปพญานาค ของช่างเมืองเพชร ซึ่งจะแบ่งเป็น 5 ชั้น คือ ห้องจัดแสดงนิทรรศการ, ห้องโถง มีบันไดเงินบันไดทองประดับลวดลายปูนปั้นทองทอดขึ้นไปสู่ชั้น 3, ห้องพักบันได บนเพดานตกแต่งด้วยสเตนกลาส ทำเป็นแผนที่โลก, ห้องพักรอก่อนที่จะขึ้นสู่ชั้นบนสุด และชั้นสุดท้ายที่เป็นส่วนของท้องช้าง ซึ่งมีความสำคัญที่สุด จะจัดแสดงวัตถุโบราณ

            ส่วนชั้นใต้ดินที่เรียกว่า "ชั้นบาดาล" เป็นที่จัดแสดงนิทรรศการและโบราณวัตถุ จำนวนมาก อาทิ พระพุทธรูป เทวรูปสมัยต่าง ๆ และเครื่องลายครามของจีนระเบียงรอบนอกตัวอาคารประกอบด้วยซุ้มแปดซุ้ม รอบพิพิธภัณฑ์เป็นอุทยาน พรรณไม้ในวรรณคดี และพันธุ์ไม้หายากจากทุกภูมิภาคของประเทศ มีงานประติมากรรมลอยตัวเรื่อง รามเกียรติ์วางเรียงรายล้อมรอบอาคาร 

            สำหรับอัตราค่าเข้าชม สำหรับผู้ใหญ่คนไทยราคา 150 บาท และเด็ก ราคา 50 บาท ส่วนชาวต่างชาติผู้ใหญ่ ราคา 300 บาท และเด็ก ราคา 150 บาท ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 2371 3135-6 หรือเว็บไซต์ ancientcitygroup.net และเฟซบุ๊ก Erawan Museum 
 
  5. วัดอโศการาม

ท่องเที่ยวสมุทรปราการ

            วัดอโศการาม ตั้งอยู่ภายในซอยเทศบาลบางปู 60 ถนนสุขุมวิท (กม.31) ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2501 และผูกพัทธสีมาเมื่อ พ.ศ. 2503  ตั้งอยู่บนพื้นที่ "นาแม่ขาว" โดยเจ้าของที่ดิน คือ นางกิงหงษ์ และ นายสุเมธ ไกรกาญจน์ ได้ถวายที่ดินเพื่อสร้างวัดประมาณ 53 ไร่ และมีการจัดตั้งสำนักขึ้นเป็นครั้งแรกขึ้น สร้างเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2505 ฝ่ายธรรมยุตินิกาย โดยพระสุทธิธรรมรังสีคัมภีร์เมธาจารย์ (พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร) เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่ง และเป็นสถานที่สำหรับวิปัสสนากรรมฐาน 

            มีสิ่งที่น่าชมภายในวัดมีสถานที่สำคัญ คือ พระธุตังคเจดีย์ (เจดีย์ 13 องค์) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่ง "ธุดงควัตร 13 ข้อ" อนุสาวรีย์ของ พระเจ้าอโศกมหาราช ซึ่งหลวงพ่อลีได้นำพระนามของพระองค์มาเป็นชื่อวัด โดยแต่ละองค์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ เป็นที่ระลึกถึงธุดงควัตร 13 ประการ และวิหารวิสุทธิธรรมรังสี อาคารจตุรมุข 3 ชั้น ส่วนยอดเป็นมณฑปประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุเช่นกัน
            สถานที่ท่องเที่ยวภายในบริเวณวัดอีกหนึ่งสถานที่ คือ ป่าชายเลน ซึ่งอยู่ทางด้านหลังของวัด ซึ่งมีนกและปลาอาศัยอยู่มาก ปลาที่โผล่มาให้เห็นก็คือปลาตีนขนาดใหญ่พอ ๆ กับปลาช่อน ซึ่งต่างกับปลาตีนน้ำจืดที่อยู่ตามสวน และมีต้นไม้ที่หายาก คือ ต้นลำพู ที่สามารถพบเห็นได้ตามทาง บรรยากาศโดยทั่วไปร่มรื่น เหมาะที่จะพาครอบครัวไปทำบุญที่วัดและเดินเล่นชมธรรมชาติของป่าชายเลนที่สมบูรณ์ยิ่งนัก ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 2389 2299 หรือเว็บไซต์ watasokaram.org และ เฟซบุ๊ก วัดอโศการาม สมุทรปราการ
   
  7. ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง 

ท่องเที่ยวสมุทรปราการ

            ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ตั้งอยู่ภายในตำบลบางน้ำผึ้ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นตลาดน้ำแห่งใหม่ใกล้กรุงเทพฯ ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้งและประชาชนบางน้ำผึ้ง ได้ร่วมใจปลุกตามแบบวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมขึ้นมาใหม่ ด้วยการสร้าง "ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง" ขึ้นมาใหม่ เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับขายสินค้าของชุมชนบางน้ำผึ้งและตำบลใกล้เคียง และเพื่อเป็นการแก้ไขภาวะสินค้าล้นตลาด เสน่ห์ของตลาดน้ำแห่งนี้ คือ วิถีชีวิตชาวบ้านริมคลองส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายมอญ และยังมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอาหารที่มีชื่อเสียงของชุมชน ได้แก่ ดอกไม้เกล็ดปลา ปั้นธูปสมุนไพรหอยทอดขนมครก และมะม่วงน้ำดอกไม้ เป็นต้น

            ภายในตลาดจะมีของกินของฝากนานาชนิดให้เลือกสรรหาซื้อจับจ่าย ไม่ว่าจะเป็นขนมหวานพื้นเมืองฝีมือชาวบ้าน รวมถึงมีต้นไม้นานาพันธุ์ ปลาสวยงามหลากชนิด และผลิตผลของชาวบ้านอีกหลายอย่าง รวมทั้งยังมีเรือพายให้บริการ อัตราค่าเช่าลำละ20 บาท และยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวสัมผัสวิถีชีวิตชุมชน และชื่นชมธรรมชาติอันสวยงามของสวนผลไม้ในชุมชน โดยเช่าจักรยานในราคา 30 บาท ต่อคัน ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งจะมีเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-14.00 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ นายก อบต. น้ำผึ้ง โทรศัพท์  0 1171 4930  สำนักงาน อบต. บางน้ำผึ้ง โทรศัพท์  0 2819 6762 และเปิดบริการเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 08.00-14.00 น. ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 2819 6762, 08 1171 4930
   
  8. วัดบางพลีใหญ่ใน

ท่องเที่ยวสมุทรปราการ

            วัดบางพลีใหญ่ใน ตำบลบางพลี อำเภอบางพลีใหญ่ จังหวัดสมุทรปราการ ถือเป็นชื่อของวัดพระอารามหลวงชั้นตรีที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน โดยสร้างขึ้นในสมัยก่อนกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นวัดที่ใช้ประดิษฐานหลวงพ่อโตซึ่งเป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย ปางมารวิชัย และเป็นหนึ่งในพระสามพี่น้อง วัดแห่งนี้เดิมมีชื่อว่า วัดพลับพลาชัยชนะสงคราม สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ในชัยชนะ ซึ่งต่อมาได้อัญเชิญพระพุทธรูปองค์ใหญ่สมัยสุโขทัยปางมารวิชัยลืมเนตร หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อโต ที่มีองค์พระหน้าตักกว้าง 3 ศอก 1 คืบ เนื้อเป็นทองสัมฤทธิ์ มาเป็นพระประธานในโบสถ์ ซึ่งเป็นที่เลื่อมใสของประชาชนโดยทั่วไป

            โดยกิจกรรมที่ชาวบางพลีปฏิบัติสืบทอดมาทุก ๆ ปี หลังจากที่ชาวบางพลีได้อัญเชิญหลวงพ่อโตจำลองลงเรือ คือพิธีโยนบัวหรือรับบัวทุกปี ในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 และบริเวณติดกับวัดยังมีตลาดริมน้ำโบราณให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมและเลือกซื้อ ซึ่งมีทั้งอาหารและของใช้ต่าง ๆ อีกด้วย ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 2337 3729 หรือ เว็บไซต์watbangpleeyainai.org

  9. บางปู หรือ สถานตากอากาศบางปู 

ท่องเที่ยวสมุทรปราการ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สถานตากอากาศบางปู

            บางปู หรือ สถานตากอากาศบางปู ในชื่ออย่างเป็นทางการ ตั้งอยู่ภายในถนนสุขุมวิท ตำบลบางปู อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในแบบพักผ่อนตากอากาศทางชายทะเลด้านอ่าวไทยที่ มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย บางปูได้ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ. 2480 ตามดำริของ จอมพลแปลก พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น มีพื้นที่ทั้งหมด 639 ไร่ ปัจจุบันใช้เป็นสถานตากอากาศที่มีชื่อเสียง มานานและเป็นสถานพักฟื้น พักผ่อน ของกรมพลาธิการทหารบก ภายในมีร้านอาหาร บ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยว 

            ในช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงปลายเดือนเมษายน จะมีนกนางนวลอพยพมาหากินอยู่ตามชายทะเล ที่อพยพหนีหนาวจากไซบีเรียมาในช่วงต้นฤดูหนาวของทุกปี โดยมีจำนวนนกไม่ต่ำกว่า 5,000 ตัว และมีจำนวนนกต่าง ๆ กว่า 200 ชนิดที่อาศัยอยู่ ณ ที่นี่ ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 2323 9911 หรือเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก สถานตากอากาศบางปู
 

  10. เกาะบางกระเจ้า 

ท่องเที่ยวสมุทรปราการ
ภาพจาก lisa guru

           เกาะบางกระเจ้า หรือ คุ้งบางกระเจ้า ตั้งอยู่บริเวณตำบลบางกะเจ้า อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว อีกทั้งยังเป็นเส้นทางปั่นจักรยานยอดฮิต  มีลักษณะพื้นที่รูปร่างพื้นที่ดูคล้ายกระเพาะอาหารที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำเจ้าพระยาจึงเรียกกันว่า "กระเพาะหมู" ครอบคลุมพื้นที่ 6 ตำบลคือ ตำบลบางกะเจ้า, ตำบลทรงคนอง, ตำบลบางยอ, ตำบลบางกระสอบ, ตำบลบางกอบัว และตำบลบางน้ำผึ้ง แวดล้อมด้วยสวนป่าชุมชนขนาดใหญ่ และยังได้รับการยกย่องจาก Time Magazine ให้เป็น The Best Urban Oasis of Asia เมื่อปี 2006 อีกด้วย 

           สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่นี่จะต้องไม่พลาดกิจกรรมปั่นจักรยานในพื้นที่สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ ที่เป็นเหมือนโอเอซิสของคนกรุงเทพฯ ด้วยพื้นที่กว่า 200 ไร่ ร่มรื่นด้วยต้นไม้นานาชนิด นอกจากนักท่องเที่ยวจะเดินทางไปปั่นจักรยานและระหว่างทางยังสามารถดูนกชนิดต่าง ๆ ได้อีกด้วย ทั้งนี้ โดยสวนสาธารณะและสวนพฤกษชาติศรีนครเขื่อนขันธ์ เปิดให้เข้าตั้งแต่ 05.00-19.00 น. ห้ามนำรถยนต์เข้า แต่ที่ซุ้มขายน้ำบริเวณหน้าสวนจะมีจักรยานให้เช่าชั่วโมงละ 30 บาท

           เรียกได้ว่าสถานที่เที่ยวสมุทรปราการเต็มไปด้วยความสวยงาม ทั้งด้านธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ยังคงอยู่มาอย่างยาวนาน เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับพาครอบครัวไปท่องเที่ยว ซึ่งถ้าเพื่อน ๆ มีโอกาสที่เที่ยวที่จังหวัดสมุทรปราการอย่าลืมแวะไปสถานที่ต่างที่เรานำฝากกันด้วยนะคะ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น